Police Corporal – Tanetpol Lertpipatwong (Jonathan)

We are happy to have well-known magician and actor, Tanetpol Lertpipatwong, whom we call Jonathan, as a member of our cast. He plays a sly police corporal opposite our quirky policewoman.

Jonathan’s story is below, but for now, it’s all in Thai. However, you may go to his website for photos… Jonathan the Magician! And his YouTube site to see him in action… Jonathan in Action!


สวัสดีครับผม “โจนาธาน” [ชื่อในการแสดงมายากล]
ชื่อจริง “ธเนศพล เลิศพิพัฒน์วงศ์” นิคเนมที่เพื่อนเรียก”กุ้ง”
เกิดวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 1969 (พ.ศ.2512)
เป็นคนจังหวัดเชียงใหม่ มีพี่น้อง 2 คนผมเป็นพี่ชายคนโต
เรียนระดับประถมที่ โรงเรียนโป่งน้ำร้อนวิทยาที่จังหวัดเชียงราย
เรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนโกวิทธำรงค์เชียงใหม่
เรียนมัธยมปี่ที่2 จนจบม.6 ที่โรงเรียนปริ้นส์รอยแยลส์วิทยาลัยเชียงใหม่
เรียนศึกษาศาสตร์เอกโสตทัศนศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง
เรียนวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
เรียนนิเทศศาตร์เอกภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
เริ่มสนใจการแสดงมายากลมาตั้งแต่เด็กๆตอนอายุประมาณ 8 ขวบ
เคยไปดูมายากลขายยาที่มาเล่นในหมู่บ้านรู้สึกชอบและสนใจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เคยเห็นเขาเล่นมายากลใช้ไม้แทงทะลุแก้วได้ กลับมาเล่นที่บ้านลองเลียนแบบทำแก้วของแม่แตก
โดนหักเงินค่าขนมไปโรงเรียนเป็นเวลา 5 วัน
ตอนอายุ 9 ขวบตอนนั้นเรียนอยู่ชั้นป.3 ได้ไปอ่านหนังสือในห้องสมุดบังเอิญเจอหนังสือเล่มหนึ่งชื่อหนังสือ”แปลก”
ในคอลัมป์หนึ่งมีสอนการแสดงมายากลด้วย รู้สึกชอบมาก เข้าไปอ่านแทบทุกวันและจนครบทุกเล่ม
ในตอนนั้นสามารถแสดงมายากลได้มากว่า 20 อย่าง
ต่อมาได้อ่านหนังสือ ที่ถือว่าเป็นจุดกำเนิดหรือครูคนแรกของผมเลยนั่นก็คือหนังสือมายากลเล่มสีเขียวๆ
ของคุณ”ชูศักดิ์ วิจักขณา” หลังจากนั้นก็ได้เรียนรู้จากหนังสืออีกหลายๆเล่ม
เช่นของคุณ”สมศักดิ์ มียี” หรือพี่โจ เมจิก
ท่านประทานชมรมวิทยากลแห่งประเทศไทยของเราคนปัจจุบันนี้
ได้เรียนรู้จากหนังสือ “มายากล”เล่ม 1-3 และหนังสือ “โลกวิทยากล”ในสมัยนั้น ที่นักมายากลไทยหลายท่านต้องรู้จัก
เมื่อก่อนการที่จะเรียนรู้มายากลได้แต่ละอย่างนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเหมือนปัจจุบัน
ผมอาศัยยจากการอ่านจากหนังสือ ดูจากม้วนวีดีโอเทปการแสดงและสั่งซื้อหนังสือของเมืองนอก
เมื่อนตอนผมเรียนชั้นม.1 ที่เชียงใหม่
มีร้านขายอุปกรณ์มายากลที่ห้างสรรพสินค้าตันตราภัณฑ์สาขาท่าแพและสาขาช้างเผือก
ผมเริ่มซื้ออุปกรณ์มายากลเล่นเป็นครั้งแรก จากคนที่ขายชื่อว่า”วัฒนา”
กลชุดแรกที่ผมเล่นคือ”ถ้วย 3 ใบ”
เมื่ออายุ 14 ปีได้มีโอกาสเจอนักมายากลที่ชื่อ”ซุปเปอร์แมน”สุดยอดปรมาจารย์นักมายากลคนหนึ่งของเมืองไทย
ตอนนี้ท่านล่วงลับไปแล้ว และคนนี้คืออาจารย์ของนักมายากล”แบทแมน”นั่นเอง
ผมเจอซูเปอร์แมนที่ร้านมายากลในห้างตันตราภัณฑ์ท่าแพ
นักมายากลซุปเปอร์แมนสอนผมเล่นกล”ฉีกและต่อธนบัตร” ชอบมากครับ
จนกระทั่งเมื่อผมอายุได้ 15 ปีเริ่มแสดงมายากลบนเวทีครั้งแรกที่งานสโมสรวิทยาของโรงเรียนปริ้นส์รอยแยลส์วิทยาลัย
ซึ่งเป็นเวทีแจ้งเกิดเวทีเดียวกันกับ “ป๋า ส.อาสนจินดา” สุดยอดนักแสดงดาราอาวุโสผู้ล่วงลับ
หลังจากนั้นผมก็มีงานแสดงที่ค่ายกาวิละในงานบอล และผมได้มีโอกาสไปแสดงตามโรงเรียนต่างๆมากมาย
เช่นโรงเรียนสันป่าตองวิทยาคม, โรงเรียนมงฟอร์ดวิทยาลัย, โบสถ์คริสตจักรที่1 และอีกหลายๆแห่ง
จนกลายเป็นนักแสดงมายากลเด็กคนเดียวในจังหวัดเชียงใหม่ตอนนั้นที่ แสดงบนเวทีได้
แสดงครั้งหนึ่งได้ทิปบวกค่าจ้างประมาณ 2,000ถึง 5,000บาท
นักมายากลที่มีชื่อและเป็น idol ในตอนนั้น ก็มี ดั๊ก เฮนนิ่ง,มาร์ค วินสัน,เดวิด คอบเปอร์ฟิลด์ ฯลฯ
หลังจากนั้นประมาณปี 2532 ผมอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็ได้เรียนรู้การแสดงมายากล จากเพื่อนนักมายากลและรุ่นพี่หลายๆท่าน
ได้รู้จักนักมายากลรุ่นเดียวกันก็คือ”จิ๋ว” Pat BOZO ปัจจุบัน
ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้การแสดงกับ Jame Zero
ได้มีโอกาสได้ความรู้จาก อาจารย์ปีเตอร์ ยี
เคยขายมายากลบนห้างโตคิวให้กับ First Magic คือเฮียเปี๋ยวนั่นเอง
ได้เรียนรู้กลไพ่ระยะใกล้จาก “ชาลี M”
ได้รับคำแนะนำเบื้องต้น และได้ชมวีดีโอการแสดงของต่างประเทศมากมายจาก “พี่สมบัติ มามาด้า”
มีโอกาสได้เข้าไปเล็คเชอร์บ่อยครั้งที่สยามเมจิกคลับ “ของอาจารย์ชาลี”
มีโอกาสติดตาม นั่งรถตามไปดู “พี่ต๋อย Prince Yamaha” แสดงตามคาเฟ่ต่างๆไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง
ได้มีโอกาสเข้าร่วมเป็นสมาชิกชมรมวิทยากลแห่งประเทศไทย และเข้าประชุมหลายครั้งที่ออฟฟิสข้างแดนเนรมิต
ได้เรียนรู้โดยบังเอิญกับเทคนิคกลไพ่จาก “เฮียจรินทร์” [J Magic] โคตรเซียนเกาจิ้ง
เคยได้รับคำแนะนำการแสดงมายากลเวทีจาก “สิงคโปร์โชว์”(นักมายากลชาวสิงคโปร์)
เคยได้รับคำแนะนำและสนับสนุนอุปกรณ์มายากลจาก “เครา ปาทาน”
ได้รับหนังสือเรียนมายากลและอุปกรณ์บางอย่างจากนักมายากลชาวฝรั่งเศสชื่อ “Jacques Delord”
ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสเป็นผู้ว่าจ้างนักมายากล อิลูชั่นคนหนึ่งของเมืองไทยเข้าร่วมงานที่พัทยานั่นคือ “ดร.แมน”นั่นเองครับ
เคยได้รับการช่วยเหลือในการทำสแตนแสดงมายากลชิ้นแรกในชีวิตจาก “พี่สมชัย เมธเมาลี”
ได้อุปกรณ์การแสดงบางอย่างจาก “พี่เกษมเมจิก ” โดยเดินทางไปถึงที่บ้าน
ได้รับการเชิญชวนในการแสดงมายากลหลายครั้งจากอาจารย์ฟิลิป
ตอนนั้นผมอยู่ที่อิมพีเรียลลาดพร้าวเจออาจารย์ฟิลิปแทบทุกอาทิตย์ครับ
เมื่ออยู่ที่กรุงเทพ ก็พอมีโอกาสได้แสดงมายากลตามร้านอาหารบ้างเป็นบางครั้ง ไม่ได้จริงจังมากมาย
เพราะตอนนั้นยังเรียนหนังสืออยู่และต้องเปิดร้านที่มาบุญครองด้วย
หลังจากนั้นก็ได้เปิดร้านวีดีโอเกมและร้านขายอุปกรณ์มายากลที่ มาบุญครองชั้น4และที่ตรงข้ามโรงเรียนพร้อมพรรณห้วยขวาง
ใช้ชื่อร้านว่า “Topline Game and magic center”
ต่อมามีคนมาจ้างไปแสดงงานแบบ Walk around ที่ เดอะ Radio ถนนพระราม9
ชีวิตหลังจากนั้นเมื่อเรียนจบ จึงหันไปทำงานในอาชีพที่เรียนมา โดยการไปเปิดบริษัท Casting Modelling ครั้งแรกกับเพื่อนรุ่นพี่
ซึ่งมีโกาสได้พบกันที่กันตนาวีดีโอ ชื่อ “First Genius Production”
หลังจากนั้นชีวิตได้หันเห เข้ามาทำงานด้านวงการบันเทิงมากขึ้น
จนกระทั่งวันหนึ่ง ชีวิตหักเห จำต้องเตรียมตัวที่จะเดินทางไปทำงานที่ออสเตรเลียกับน้า เป็นเวลาหลายปี
สุดท้าย ชีวิตก็ต้องมาเริ่มต้นที่กรุงเทพอีกครั้ง
แม้กระทั่งที่ก้าวสู่กรุงเทพครั้งแรกก็ยังได้เล่นแสดงภาพยนตร์บ้าง ละครบ้างเป็นตัวประกอบก็มากมาย
ช่วงนั้นเองจนได้รู้จักกับเพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อ “สมบัติ ผลกิจ” และเป็นเพื่อนที่เริ่มต้นจากการแสดงภาพยนตร์ มาจนถึงปัจจุบัน
และเพื่อนก็ยังทำรายการทีวีอยู่
ชีวิตช่วงนั้นเปลี่ยนผันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเรียนจบ ได้เปิดร้าน Game และ Magic shop ที่มาบุญครองเซ็นเตอร์
เปิดร้านขายเสื้อผ้าที่มาบุญครอง และอิมพีเรียลสำโรง ต่อมาเปิดร้านขายของเล่นที่ห้าง อิมพีเรียลลาดพร้าว
ใช้ชีวิตกับการเขียนบท กำกับการแสดง
งานภาพยนตร์ ละคร มิวสิควีดีโอ งานโฆษณา สารคดี ฯลฯ มีผลงานพอสมควร
ได้ทำงานกับ บริษัท สเปคตรัมมีเดีย ,ไท มิวสิคโปรโมชั่น กับคุณแอล ชูเกียรติ บัวผาง”
จนกระทั่งวันหนึ่ง ในขณะที่ยังทำรายการโทรทัศน์อยู่ ก็รู้สึกอิ่มตัวกับการงานที่กรุงเทพฯ เพราะตั้งแต่เดินทางไปกรุงเทพ
หลังจากจบ ม.6 และเรียนต่อที่นั่นจนจบ ก็ทำงานที่นั่นเลย ไม่เคยคิดกลับบ้าน
และในช่วงเวลานั้น ทำให้รู้สึกว่า อยากหยุดงานที่ดิ้นรนและกลับมาอยู่สบายๆที่เชียงใหม่ และก็ตัดสินใจย้ายมาเชียงใหม่จริงๆ
ในช่วงแรกที่ดำเนินชีวิตในเชียงใหม่ประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา
ลองไปขายของที่ถนนคนเดินเล่นๆ เพราะเนื่องจากเห็นเพื่อนคนหนึ่งสมัยที่เรียนมาด้วยกันชื่อ”ป๊อบ ขายกาแฟรสส้ม”ที่นั่น
ทั้งๆที่ป๊อบ ก็แสดงละครของดาราวีดีโอมาก็หลายเรื่อง จนถึงขั้นจะก้าวขึ้นเป็นผู้กำกับ สุดท้ายก็ต้องกับมาเลือก
ทางเดินชีวิตที่อิสระ โดยการเป็นนายตัวเองที่ “กาแฟรสส้ม”
และด้วยความชอบมายากล เป็นทุนอยู่แล้ว และก็ไม่เคยคิดเบื่อ จนวันหนึ่งได้ตัดสินใจสร้างกลุ่มมายากลขึ้นมา
คือกลุ่ม”คนรักกล” We love magic ก็มีเพื่อนนักมายากลและรุ่นน้องหลายๆท่านให้ความสนใจ
และตอบรับกับการสร้างกลุ่มนักมายากลขึ้นมา
จนกระทั่งในที่สุดผมได้ตัดสินใจเปิดร้านจำหน่ายอุปกรณ์มายากล ชื่อ”ProStar Magic shop” ขึ้นที่…
แถวคูเมืองรอบนอก ถนนคชสารซอย5 เลขที่95/9 ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ห่างจากร้านหนังสือดวงกมลเพียง 200 เมตร
ปัจจุบันที่ร้าน จำหน่ายอุปกรณ์มายากลทุกชนิด รับสอนการแสดงตั้งแต่ระดับพื้นฐานขึ้นไป จัดอบรมเป็นกลุ่มคณะ
จัดโชว์การแสดงทั่วทุกสารทิศ งานมายากลเวที โคลสอัพ สตรีทเมจิก หรือ อิลูชั่นขนาดใหญ่
ในนามชื่อ”Magic Station Chiangmai” มีการเรียนการสอน มีลูกศิษย์ที่เรียนรู้ด้านการแสดง ตลอดจนนำไปแสดงเป็นอาชีพ
ก็มากมาย ยังพร้อมและยินดีที่ให้คำแนะนำ และส่งเสริมการเรียนรู้ ฝึกฝน
รวมทั้งการเข้าประกวดงานแสดงมายากลด้วยตราบเท่าที่ความรู้ของผมจะพึงเอื้ออำนวยได้…
อีกทางเลือกของคนต่างจังหวัด ที่หาซื้ออุปกรณ์การแสดงได้ยาก “www.prostar-magic.com” เปิดบริการสั่งซื้อสินค้าอุปกรณ์มายากล
ทางเว็ปไซต์และส่งทางไปรษณีย์มานานนับ 6 ปี มีสมาชิก มากกว่า 3,000 คน มีผู้เข้าเยี่ยมชมเว็ปไซต์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 2ล้าน5แสนคน
และมีผู้สั่งซื้อสินค้ามาแล้วไม่ีต่ำกว่า 10,000 คน ปัจจุบันยังเปิดให้บริการอยู่…
แนวทางสำหรับความสุขทางใจ “ที่ Jonathanกับการแสดงมายากล” นั้น
ถือว่าเป็นสิ่งที่คู่กันมา และคงจะสร้างสรรค์และบริการด้านความบันเทิงเช่นนี้ตลอดไป
*** ในแง่มุมอื่นๆ ของชื่อชีวิตของผม “ธเนศพล” ผมยังคงวางแผนงานเพื่อดำเนินการด้านภาพยนตร์ที่เล่าเรียนมาต่อไป
ยังตั้งเป้าหมายสำหรับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยที่สูงยิ่งๆขึ้นไป(เพราะว่าการเรียนรู้ไม่มีจุดสิ้นสุดสำหรับผม)
ใช้ชีวิตส่วนหนึ่ง สำหรับธุรกิจส่วนตัวในแนวอื่น เช่นการผลิตแบรนด์สินค้าของตัวเอง การจัดจำหน่ายสินค้าในรูปแบบเครือข่าย
งานการลงทุนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และสิ่งก่อสร้าง
งานลงทุน ด้านกองทุนและตลาดหุ้น และโครงการเพิ่มเติมต่อไปภายหน้าซึ่งจะบังเกิดขึ้น
ตามเทคโนโลยี่และการก้าวหมุนของโลกต่อไปในอนาคต
ไม่ว่าชีวิตจริงหรือชีวิตการแสดง เราต้องเชื่อว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นได้ เฉกเช่นเดียวกับ..มายากล
“ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับมายากล” Nothing Impossible for magic.
สรุป สิ่งที่มนุษย์แสวงหา จะมีชื่อเสียงโด่งดังหรือต่ำต้อย จะร่ำรวยล้นฟ้าหรือยากจน จะสำเร็จมากมายหรือคงที่
สุดท้ายก็อย่าลืมว่า “สิ่งที่ท่านได้ทำไปนั้นคือ ความสุข” ที่เกิดขึ้นจากใจบริสุทธิ์ที่ไม่เบียดเบียนหรือทำร้ายใคร
และนี่คือเรื่องราวส่วนหนึ่งของชีวิตผมครับ ♥♥♥

Leaving a comment will help to ensure World Peace. / หากมีคอมเม้น หรือข้อแนะนำ ทิ้งข้อความของคุณให้กับเราเวิร์ลพีซได้เลยครับ